ปัจจุบันการสร้างบ้านไม่จำเป็นจะต้องวิ่งหาผู้ออกแบบบ้าน ผู้รับเหมาทำบ้านหรืออื่น ๆ เพราะจ้างศูนย์รับสร้างบ้านแหล่งเดียวมีทีมงานที่เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาครบวงจร โดยงบประมาณที่ใช้จ่ายไม่ได้บานปลาย เพราะผู้ว่าจ้างสามารถบอกงบที่ตนเองมีได้เลย แล้วในส่วนของการเทงานมักจะไม่เกิดขึ้นด้วยความที่เขียนสัญญากันก่อนเสมอ สำหรับบุคคลใดที่มีความสนใจเกี่ยวกับการจ้างทำบ้านอ่านบทความนี้จบก็เข้าใจทันที  

ศูนย์รับสร้างบ้านมีความสำคัญต่อผู้ที่ต้องการทำบ้านหลังแรกอย่างไรบ้าง  

เนื่องจากการย้ายหลังแรกผู้ที่ต้องการบ้านมักจะไม่มีประสบการณ์มาก่อนแล้วจากสถิติที่บ้านมาถ้าไม่ได้ทำผ่านศูนย์รับสร้างบ้านแต่เป็นการผู้รับเหมาและคนออกแบบเอง งบประมาณที่ใช้จ่ายจะเยอะขึ้นเรื่อย ๆ แล้วบ้านไม่ตรงแบบ ได้บ้านล่าช้า ดังนั้นการว่าจ้างบริษัทที่ดีมีมาตรฐานย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะมีสัญญาครบทุกอย่างมีผลทางกฎหมายจริง ๆ แล้วในประมาณในการทำบ้านจบในก้อนเดียวและกู้ธนาคารได้ 

คำแนะนำ ถ้าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน! กู้เงินธนาคารมาจ้างได้อย่างไรบ้าง 

การจ้างศูนย์รับสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองนั้น การกู้เงินจากธนาคารจะมีความแตกต่างจากการกู้เงินซื้อบ้านในโครงการ เนื่องจากรูปแบบการกู้เงินมาจ้างบ้านเอง เอกสารต่าง ๆ ก็จะเป็นในส่วนของหลักฐานการยืนยันตนเองและรายได้ ทว่าเงินที่ได้รับจะเป็นแบ่งจ่าย หลังจากที่ได้เงินมาทำบ้านก็จะต้องถ่ายรูปไปเบิกเงินก้อนถัดไป ดังนั้นควรมีการวางแผนและเงินทุนสำรองก้อนหนึ่งระหว่างที่รอเงินจากทางธนาคารด้วยนั่นเอง  

5 สาระน่ารู้ ก่อนที่จ้างบริษัทรับสร้างบ้าน สำหรับมือใหม่ ไม่อยากโดนเท  

ก่อนที่จะจ้างศูนย์รับสร้างบ้านไม่สามารถจ้างได้ทันที แม้ว่าจะเป็นบริษัทเอง เพราะบางบริษัทก็อาจจะไม่ได้ตรงใจของผู้ว่าจ้าง ดังนั้นก่อนที่จะจ้างควรมี 5 ความรู้ต่อไปนี้  

  1. ทำความรู้จักกับบริษัทที่รับทำบ้านอันดับต้น ๆ ของไทยก่อน  
  1. เลือกสืบค้นบริษัทที่มีการจดเอกสารนิติบุคคลถูกกฎหมายเท่านั้น  
  1. ดูผลงานที่ผ่านมาก่อนว่าจ้าง เพื่อดูว่าวิธีการทำงานตรงกันหรือไม่  
  1. สังเกตว่าบริษัทตอบคำถามและการให้คำปรึกษาจริงใจไม่ต้องการแค่เงิน 
  1. มีสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนที่สุด มีความโปร่งใส  

สุดท้ายการว่าจ้างศูนย์รับสร้างบ้านใบเสนอราคาที่ได้มานั้นจะต้องเป็นจำนวนเงินที่สมเหตุผลสมผล ไม่ใช่จำนวนเงินที่มากเกินไป แต่วัสดุที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งก็เป็นการบ้านที่ผู้ว่าจ้างจะต้องไปศึกษาข้อมูลของวัสดุต่าง ๆ ตามท้องตลาดก่อนจะได้ไม่เสียเปรียบบริษัทที่รับทำบ้าน